ปกเว็บไซต์ สถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา

สพด.นครราชสีมา จัดงาน KICK OFF โครงการ "ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม" ปี 2568 @ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้งหมด 71 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบ Video conference application Zoom และ Facebook live กรมพัฒนาที่ดิน #KICKOFF #ไถกลบตอซังพืชลดการเผา #ไถกลบตอซัง #กรมพัฒนาที่ดิน


date 2 ก.พ. 2568    18   

            วันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. สถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา จัดงาน KICK OFF โครงการ "ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม" ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายจิรเดช พงษ์ประสิทธิ์ นายอำเภอโนนสูง ประธานเปิดงาน นายวิญญู เสมียนรัมย์ ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา กล่าวรายงาน และ นายศักดิ์สิทธิ์ ทิพย์ประเสริฐ กำนันตำบลเมืองปราสาท อำเภอโนนสูง กล่าวต้อนรับ ณ บ้านโนนคราม หมู่ 5 ตำบลเมืองปราสาท อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้งหมด 71 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบ Video conference application Zoom และ Facebook live กรมพัฒนาที่ดิน

            โดย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นประธานพิธีเปิดงาน KICK OFF โครงการ "ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม" ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวรายงาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดงาน (Center) ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการเผา (Hot spot) เพื่อสร้างความตระหนักให้เกษตรกรทำเกษตรกรรมที่ไม่เผาฟางและตอซังพืช ช่วยให้คุณสมบัติของดินดีไม่ถูกทำลาย เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน ช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 รวมทั้งลดพื้นที่เสี่ยงที่จะส่งผลต่อการเกิดภาวะโลกร้อน

             “การไถกลบตอซังพืชแทนการเผา เป็นวิธีการปรับปรุงบำรุงดินที่สะดวกและง่าย ที่เกษตรกรสามารถทำได้ด้วยตนเอง นอกจากจะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินได้โดยตรง การไถกลบหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ดินดี มีความอุดมสมบูรณ์ และผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงช่วยลดปัญหาหมอกควัน และผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน เพราะเป็นการหยุดยั้งปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เกษตรกรรม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ ประชาสังคม สื่อมวลชน เกษตรกร และประชาชน เพื่อสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมของทุกหน่วยงาน สร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาจากการเผาที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรดินอีกด้วย”