สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร 🚜 Kick Off โครงการ “ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม” 🚫🔥รณรงค์เกษตรกรไม่เผาฟางและตอซังพืชลดปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และผลกระทบภาวะโลกร้อน พร้อมกันทั้ง 77 จังหวัด
2 ก.พ. 2568
10
วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานกล่าวเป็นงาน Kick Off โครงการ “ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม” ประจำปี พ.ศ.2568 โดยมี นายเจษฏา สาระ ผู้อำนวยการพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร กล่าวรายงาน
พร้อมด้วย นายประสาน ทองสุขมาก นายอำเภอบึงสามัคคี นายอนันต์ โฆษิตพิพัฒน์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดฯ นายธนดล วงษ์ขันธ์ เกษตรจังหวัดฯ นายสันติ ไชยา ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวฯ ผู้แทนประมงจังหวัดฯ ผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทน ธกส.สาขากำแพงเพชร และผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในพิธี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หมอดินอาสา และเครือข่ายเกษตรกรจำนวนกว่า 150 คน ซึ่งการจัดงานมีการรถ่ายทอดสด Kick Off พร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านระบบ Zoom Conference Meeting โดยมีศูนย์กลางการจัดงาน ณ บ้านเตาไห ตำบลทุ่งรวงทอง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
โดยสถานีพัฒนาที่ดินฯ จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้มาร่วมกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การกำจัดเศษวัสดุในวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น วิธีการใช้สารเร่งพัฒนาที่ดิน (พด.) ให้เหมาะสม กิจกรรมทำปุ๋ยหมักจากมูลสัตว์และซากวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร รวมถึงให้ผู้มาร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันพ่นสร้างเร่ง พด.เร่งการย่อยสลายตอซักข้าวในแปลงนาสาธิต หว่านเมล็ดปอเทือง ปลูกต้นไม้ และปล่อยขบวนรถไถ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และนายอำเภอบึงสามัคคี เป็นคนขับ ไถกลบตอซังข้าวในแปลงนาสาธิต ร่วมกันรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาปรับเปลี่ยนวิธีการกำจัดเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรจากการเผา มาเป็นการไถกลบแทน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนค่าปุ๋ยบำรุงดิน ยังช่วยลดปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จากปัญหาภาวะโลกร้อน และสำนักงานเกษตรอำเภอบึงสามัคคี ได้จัดบูธนิทรรศการให้ความรู้ด้านการนำฟางข้าวนำมาทำเป็นกระถางปลูกต้นไม้ให้ผู้แก่ผู้ร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการนำเศษวัสดุมาทำให้เกิดประโยชน์ ทดแทนการเผาได้ ซึ่งการเผาทำให้ดินเกิดการสูญเสียอินทรียวัตถุและธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของต้นพืชจำนวนมาก การไถกลบตอซังพืชจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ดินมีความโปร่งร่วนซุย ทำให้อุ้มน้ำได้ดี ความหนาแน่นของดินลดลง จะช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารพืชหมุ่นเวียนคืนสู่ดิน โดยพื้นที่ขนาด 1 ไร่ จะสามารถเพิ่มธาตุอาหารลงดิน ได้แก่ ธาตุไนโตรเจน ฟอรฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) คิดเป็นมูลค่ามากถึง 900 บาท/ไร่ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ ดังนั้นเกษตรกรจึงควรงดการเผาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรดังกล่าว โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ บ้านดงเย็น หมู่ 1 ตำบลระหาน อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร