จัดระบบอนุรักษ์ดิน-น้ำในพื้นที่เสี่ยง ต.บ้านแซว และการดำเนินงานของศูนย์ข้าวชุมชน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
6 ต.ค. 2568
7
สวด.ร่วมลงพื้นที่ สพข.7 จัดระบบอนุรักษ์ดิน-น้ำในพื้นที่เสี่ยง ต.บ้านแซว และการดำเนินงานของศูนย์ข้าวชุมชน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย


วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ดร.ปิ่นเพชร ดีล้อม ผส.วด.มอบหมายให้นายรัตนชาติ ช่วยบุดดา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์วิจัยดินทางเคมี พร้อมด้วย นางสาวประไพพิศ ศรีมาวงษ์ และนางสาวนภัสสร โน๊ตศิริ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ร่วมลงพื้นที่การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ และการติดตามข้อมูลคุณภาพดินในพื้นที่ จ.เชียงราย

โดยนายสุรชาติ มาลาศรี รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านปฏิบัติการ พร้อมด้วย นายเอนก ดีพรมกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 7 ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด รายงานข้อมูลการดำเนินโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำต่อ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำพื้นที่วิกฤตต่อการสูญเสียหน้าดิน โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หมอดินอาสา และประชาชน เข้าร่วม ณ บ้านแม่แอบ ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งพื้นที่การเกษตรในจังหวัดเชียงราย 3,712,539 ไร่ มักพบปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน เกิดการสูญเสียดิน ในระดับปานกลางถึงรุนแรงมากที่สุด จำนวน 1,669,528 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 48.52 ของพื้นที่เกษตรกรรม การสูญเสียหน้าดินเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นที่สูง ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ แร่ธาตุและอินทรียวัตถุลดลง ตลอดจนโครงสร้างของดินเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ตะกอนของดินที่เกิดจากการชะล้างพังทลายของหน้าดิน จะถูกพัดพาไปทับถมในแม่น้ำ ลำธารต่างๆ จนเกิดการตื้นเขิน ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ตามความต้องการ และพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน การทำเกษตรต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ทำให้ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร สถานีพัฒนาที่ดินเชียงราย สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 7 กรมพัฒนาที่ดินจึงได้ดำเนินโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำพื้นที่วิกฤตต่อการสูญเสียหน้าดิน พื้นที่ดำเนินการ 150 ไร่
กิจกรรมที่ดำเนินการประกอบด้วยคันดินแบบไม่ต่อเนื่อง บ่อดักตะกอนดิน ทางลำเลียงในไร่นา สระน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน แนวหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและปรับเปลี่ยนการปลูกพืช จากพืชเชิงเดี่ยวเป็นการปลูกพืชแบบผสมผสาน ซึ่งถือเป็นการมุ่งเน้นการป้องกันและฟื้นฟูดินในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการกัดเซาะหรือการพังทลายของดิน เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นแปลงต้นแบบในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่ดินต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ กรมพัฒนาที่ดิน เพิ่มเติมได้ที่

Facebook : กรมพัฒนาที่ดิน

Youtube : กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Tiktok : กรมพัฒนาที่ดิน

Instagram : กรมพัฒนาที่ดิน
เนื้อหาข่าว: กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน
รูปภาพ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 7