วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2567 เวลา 09.00 น. นายสมบูรณ์ ธิจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ได้นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ทำกิจกรรม "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2567" เพื่อเป็นการสร้าง และกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน โดยมีนางสาวชนิษฎา พันธุ์เมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ณ บริเวณพื้นที่ปลูกต้นไม้ของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยพันธุ์ไม้ที่ร่วมกันปลูก คือ ต้นทองอุไร ชัยพฤกษ์ อินทนิล ไผ่ซางนวล และไผ่ซางหม่น รวมจำนวน 300 ต้น ในเนื้อที่จำนวน 1 ไร่
วันต้นไม้ประจำปีครั้งแรกของโลก ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2515 มีประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ได้กว่าหนึ่งล้านต้น และได้ถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อมา ในประเทศไทยกรมป่าไม้เชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ในวันชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 มิถุนายน ปี พ.ศ.2484 กรมป่าไม้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในส่วนภูมิภาคดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการจังหวัดและอำเภอจัดให้มีการปลูกต้นไม้ขึ้นในวันชาติ คือ วันที่ 24 มิถุนายน 2484 ถือว่าเป็นวันต้นไม้ประจำปีอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย กรมป่าไม้ได้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติให้ถือเอาวันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปี เป็น "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ" ต่อมาปี พ.ศ. 2503 ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกวันชาติและคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2503 กำหนดให้ "วันเข้าพรรษา" เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติแทนปี พ.ศ. 2532 ได้มีการเสนอคณะรัฐมนตรีว่าปัจจุบันสภาพของฤดูกาลได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ต้นไม้ที่ปลูกในวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูฝน เมื่อฝนทิ้งช่วง เกิดสภาวะขาดแคลนน้ำ ต้นไม้ไม่สามารถตั้งตัวได้ก่อนถึงฤดูแล้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงขอให้พิจารณา อนุมัติให้วันวิสาขบูชา ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม และเป็นระยะเริ่มต้นของฤดูฝน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติแทน และคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 ปัจจุบันจึงถือเอาวันวิสาขบูชา เป็น "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ"