พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร
26 ก.ย. 2567
3
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 09.30 น. นายอนุวัชร โพธินาม รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านปฏิบัติการ ได้รับมอบหมายจาก นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร ระหว่าง กรมพัฒนาที่ดิน กับ กรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีนายพีรพันธ์ คอทอง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ พร้อมด้วย นางสาวสุมิตรา วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านบริหาร นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายอัธยะ พินจงสกุลดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมพัฒนาที่ดิน และนางสาวสุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมส่งเสริมการเกษตร ลงนามเป็นพยาน ผู้อำนวยการกอง/สำนัก คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 2801 ชั้น 8 อาคาร 2 กรมพัฒนาที่ดิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
นายอนุวัชร โพธินาม รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดิน เล็งเห็นความสำคัญ ในการร่วมมือกับ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อบูรณาการ พัฒนาการเกษตรทุกมิติ ทั้งการใช้ข้อมูลการเกษตร ข้อมูลดิน ข้อมูลการใช้ที่ดิน ข้อมูลการสำรวจสำมะโนที่ดิน ข้อมูลทะเบียนเกษตรกร และข้อมูลอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน พัฒนาการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยีและข้อมูลระหว่างหน่วยงาน รวมถึงการร่วมกันนำเสนอข้อมูลการเกษตร ที่เป็นข้อมูลเดียวกัน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญ ในการเสริมสร้างความร่วมมือ และเพิ่มประสิทธิผลในการพัฒนาข้อมูลเกษตร การบูรณาการข้อมูลไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถจัดการและใช้ข้อมูล ได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำแล้วยังตอบสนองต่อความต้องการ และการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดิน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมบูรณาการข้อมูล และพัฒนาการเกษตรทุกมิติกับ กรมส่งเสริมการเกษตร และมีความมุ่งหวัง ที่จะส่งเสริมการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ นำไปสู่การขับเคลื่อนการเกษตร ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญ ในการยกระดับการเกษตรให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้เกิดการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างผลลัพธ์ที่ดีและเป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาการเกษตร พร้อมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ระหว่างกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา และแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายอนุวัชร โพธินาม กล่าวทิ้งท้าย
