ปกเว็บไซต์ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8
ภาพประกอบประวัติหน่วยงานสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8

 ประวัติความเป็นมาของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 10 เมษายน 2527 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดิน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ.2527 เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีฐานะเทียบเท่าระดับสำนักๆหนึ่งในกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารและปฏิบัติงานพัฒนาที่ดินที่ได้รับมอบหมายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งก่อนที่จะมีการจัดตั้ง
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ขึ้นมานั้น มีความเป็นมาดังนี้

     เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2506 ในช่วงสมัยของรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ คณะรัฐมนตรีคณะที่ 29 ของไทย ได้จัดตั้ง "กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ"
ขึ้นมาใหม่ตามพระราชบัญญัติ 3 ฉบับ ที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุแบกษาโดยให้มีหน้าที่
ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านพลังงาน การพัฒนาที่ดิน การทางหลวง สหกรณ์ และทรัพยากรธรณี โดยการแยกงานและบุคลากรณ์
สวนหนึ่งมาจากกระทรวงสหกรณ์และกรมอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมออกมารวมกันใหม่เป็น 13 กรมและให้มาอญุ่ในสังกัดของกระทรวงพัฒนาการ
แห่งชาติ ซึ่ง "กรมพัฒนาที่ดิน" เป็น 1 ใน 3 กรมที่เกิดขึ้นใหม่ในเวลานั้น มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานการพัฒนาที่ดินของประเทศ ดังนั้น
จึงถือว่า วันที่ 23 พฤษภาคม 2506 เป็นวันกำเนิดของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินที่ก่อตั้งขึ้นมานั้น เป็นการแยกงานบางส่วนที่ทำ
อยู่เดิมในกรมกสิกรรม กระทรวงเกษตร มารวมกับงานใหม่ที่ได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะ มีหน่วยงานในสังกัด
จำนวน 5 กอง คือ สำนักงานเลขานุการกรม กองจำแนกดิน กองบริรักษ์ที่ดิน กองนโยบายที่ดิน และกองปฏิบัติการสนามสำรวจดินและ
ในวันเดียวกันนั้น (23 พฤษภาคม 2506) สำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแต่งตั้งให้ นายบรรเจิด  พลางกูร ผู้เชี่ยวชาญทางดินและปุ๋ย
กรมกสิกรรม มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน หลังจากวันนั้นมากรมพัฒนาที่ดินได้มีการพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในทางที่
เจริญก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

     ในช่วงปี 2509-2511 กองบริรักษ์ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีหน้าที่หลักในการอนุรักษ์และปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่เกษตรกรรม
ของประเทศ ได้ขยายหน่วยงานจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความสะดวงก่อให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น
จึงได้จัดตั้ง "ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำ" ขึ้นในบางจังหวัดกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานประ
จำที่ศูนย์ฯเหล่านั้น ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำที่จัดตั้งขึ้นในช่วงเวลานั้นได้แก่ ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำเพชรบูรณ์ ศูนย์(หน่วย)อนุรักษ์ดินและ
น้ำเลย ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำน่าน ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำเชียงราย เป็นต้น

       ตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมา กองบริรักษ์ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำในส่วยภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นทั้งนี้เพื่อให้
สะดวกต่อการปฏิบัติงานและครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางและทั่วถึงมากขึ้น และได้ยกระดับฐานะศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำให้มีขอบเขต
ความรับผิดชอบ และความสามารถในการปฏิบัติงานได้มากขึ้น ได้ยกระดับฐานะของศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำให้สูงขึ้น และเปลี่ยนชื่อจาก
"ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำ" เป็น "ศูนย์พัฒนาที่ดิน" และได้จัดตั้งเพิ่มขึ้นใหม่เป็นจำนวนมากในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ

       ในปี 2514 จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ทำการปฏิวัติและยึดอำนาจจากรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชน์ และได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐใหม่

        วันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 คณะปฏิวัติที่มีจอมพลถนอม กิตติขจรเป็นหัวหน้าคณะฯ ได้ประกาศยบกระทรวงพัฒนาการ
แห่งชาติลง และได้จัดแบ่งส่วนราชการของประเทศไทยขึ้นใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันในสมัยนั้น ตามประกาศคณะ
ปฏิวัติ ฉบับที่ 216,217,218, และ 276 และในพระราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่มที่ 89 ตอนที่ 145 กำหนดให้ กรมพัฒนาที่ดิน
กรมชลประทาน และกรมส่งเสริมสหกรณ์มาสังกัด "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์" ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 29 กันยายน 2515 ซึ่งเมื่อ
กรมพัฒนาที่ดินย้ายมาสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก้ยังมีการขยายงานและจัดตั้งศูนย์พัฒนาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึง
ปี 2526

        วันที่ 6 ตุลาคม 2526 ได้มีการประกาศใช้ "พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2526" ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่วที่ 100
ตอนที่ 160 ขึ้น ซึ่งใน มาตรา 10 และ มาตรา 14 ได้กำหนดอำนาจและหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดินไว้ดังนี้
         มาตรา 10 กำหนดให้กรมพัฒนาที่ดินมีหน้าที่สำรวจและวิเคราะห์ตรวจสอบดินหรือที่ดิน เพื่อให้ทราบถึงความอุดมสมบูรณ์ตาม
ธรรมชาติ และความเหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์ที่ดิน จำแนกที่ดิน การพัฒนาที่ดิน ทำสำมะโนที่ดิน หรือภาวะเศรษฐกิจที่ดิน เพื่อ
ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ และปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการสถิติ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถิติในเรื่องที่เกี่ยวกับการทำสำมะโนที่ดินเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
        มาตรา 14 กำหนดไว้ว่า เอกชนรายใดประสงค์จะให้กรมพัฒนาที่ดินวิเคราะห์ตรวจสอบตัวอย่างดิน หรือปรับปรุงดิน หรือที่ดิน
หรือการอนุรักษ์ดินและน้ำเป็นการเฉพาะราย ให้ยื่นคำขอต่อหน่วยงานพัฒนาที่ดินในท้องที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่หากไม่มีหน่วยงานดังกล่าว
ให้ยื่นต่ออำเภอ
        การวิเคราะห์ตรวจสอบตัวอย่างดิน หรือการปรับปรุงดิน หรือที่ดิน หรือการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอเสียค่าใช้จ่าย
ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
        ในกรณีที่เกษตรกรประสงค์จะให้กรมพัฒนาที่ดินวิเคราะห์ตรวจสอบตัวอย่างดินเพื่อปรับปรุงดินหรือที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม
ของตน หากได้นำตัวอย่างดินมอบให้กรมพัฒนาที่ดิน ก้ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตามวรรคสองและให้กรมพัฒนาที่ดินแจ้ง
ผลการวิเคราะห์ตรวจสอบตัวอย่างดินให้ผู้ขอทราบภายในเวลาอันสมควร พร้อมทั้งคำแนะนำในการปรับปรุงดินหรือที่ดินเพื่อเกษตรฯ

         วันที่ 5 เมษายน 2527 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาแบ่งท้องที่ของกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกเป็นเขต
โดยการรวมพื้นที่ 4-5 จังหวัดที่มีลักษณะสภาพพื้นที่ ภิมิอากาศ ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน และสภาพแวดล้อมอื่นๆ คล้ายคลึงกันรวม
เป็นเขตพัฒนาที่ดินเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา วิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยี และการบริหารจัดการงานพัฒนาที่ดิน

          วันที่ 10 เมษายน 2527 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ.2527 ให้แบ่ง
หน่วงงานของกรมพัฒนาที่ดินระดับกองที่มีอยู่ 9 กอง เป็น 22 กอง (9 กอง และ 13 สำนักงาน) โดยมีกอง/สำนักงานในส่วยกลาง 10 กอง/สำนักงาน
และสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ที่มีฐานะเทียบเท่ากองอีก 12 กอง (สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต) ทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้ก็
เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการประกาศใช้พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2526 ซึ่ง
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 เป็นหนึงในหน่วยงานของกรมพัฒนาที่ดินที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นในวันที่ 10 เมษายน 2527 นี้ด้วย โดนกำ
หนดให้สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก มีหน้าที่บริหารงานพัฒนาที่ดินในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก
จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดเลย และจังหวัดพิจิตร มีเนื้อที่รับผิดชอบ 29.67 ล้านไร่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การปฏิบัติงานตาม
พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2526 ของกรมพัฒนาที่ดินในส่วนภูมิภาคเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็วในการให้บริการเกษตรกร
ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ เหมาะสมกับงานพัฒนาที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลงในการขยายงานและมี
หน้าที่รับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น โดยให้สำนักงานพัฒนาที่ดินเขตเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงานและปฏิบัติการในรูปของสถานีพัฒนา
ที่ดินจังหวัดในสังกัด เป็นระบบการบริหารราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งสำนักงานอยู่ในส่วนภูมิภาค และให้เปลี่ยนชื่อจาก "ศูนย์พัฒนาที่ดิน"
สังกัดกองบริรักษ์ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน เป็น "สถานีพัฒนาที่ดิน" สังกัดสำนักงานพัฒนาที่ดินเขตที่จัดตั้งขึ้นใหม่

          การก่อสร้างอาคารที่ทำการของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 นั้นเกินขึ้นหลังจากพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรม
พัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ.2527 มีผลบังคับใช้ กรมพัฒนาที่ดินได้มอบหมายให้ นายเชาวลิต  อ่อนพูล รักษาการ
ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 และ นายสามภพ  จันทรมณี นักวิชาการเกษตร 7 กองบริรักษ์ที่ดิน ประสานงานกับราชพัสดุ
จังหวัดพิษณุโลก และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยหาพื้นที่ราชพัสดุสำหรับใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8

          วันที่ 15 พฤษภาคม 2528 นายเชาวลิต  อ่อนพูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ในขณะนั้น ได้มีหนังสือแจ้งกรมพัฒ
นาที่ดินว่าได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ราชพัสดุของจังหวัดพิษณุโลกสำหรับเป็นสถานที่ที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ได้
แล้ว ณ ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา เป็นพื้นที่ราชพัสดุที่กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณะสุข
ได้ขอใช้ไว้นานแล้วแต่ยังมิได้มีการใช้ประโยชน์ตาใวัตถุประสงค์ที่กรมธนารักษ์ กระทรวงการครัง ได้กำหนดไว้แต่อย่างใด กรมธนา
รักษ์ กระทรวงการครัง ได้กำหนดไว้แต่อย่างใด กรมธนารักษ์จึงได้ขอพื้นที่ดังกล่าวคืนจากกรมควบคุมโรคติดต่อและได้มอบให้ผู้ว่า
ราชการจังหวัดพิษณุโลกจัดให้กับกรมพัฒนาที่ดิน ที่ประสงค์ขอใช้พื้นที่สำหรับสร้าอาคารสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 พร้อมบ้านพัก
ข้าราชการ ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินมีแบบแปลนและงบประมาณในการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2528 พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งกรมควบคุมโรค
ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข ยินดีคืนที่ราชพัสดุดังกล่าวให้กับกรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์ได้มอบให้ทางจังหวัดพิษณุโลกและส่งมอบ
ต่อให้กรมพัฒนาที่ดินเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มก่อสร้างสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ได้เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2528 และได้เปิดใช้ทำการได้ตั้ง
แต่ปี 2529 เป็นต้นมา

           วันที่ 7 พฤศจิกายน 2537 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีก
ครั้ง โดยมีการปรับปรุงกองและเปลี่ยนชื่อกองใหม่ใหเเหมาะสมแต่ยังคงมีหน่วยงาน 9 กอง 13 สำนักงาน เท่าเดิม

           วันที่ 9 ตุลาคม 2545 ได้มีการออกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดินอีกครั้ง โดยมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงส่วน
ราชการภายในใหม่เป็น 5 กอง 1 ศูนย์ และ 16 สำนัก (4 สำนักในส่วนกลาง และ 12 สำนักในส่วนภูมิภาค) คือ สำนักงานเลขานุการกรม
กองการเจ้าหน้าที่ กองคลัง กองช่าง กองแผนงาน กองแผนที่ ศูนย์สารสนเทศสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1-12 สำนักวิจัยและพัฒนาการ
ที่ดิน สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน

           วันที่ 6 มกราคม 2555 ได้มีการออกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ลงประ
กาศลงในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง โดยแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดินออกใหม่เป็น 3 กอง 1 ศูนย์ และ 18 สำนัก (6 สำนักในส่วน
กลาง และ 12 สำนักในส่วนภูมิภาค) คือ สำนักงานเลขานุการกรม กองการเจ้าหน้าที่ กองคลัง กองแผนงาน ศูนย์สารสนเทศ สำนักงาน
พัฒนาที่ดินเขต 1-12 สำนักเทคโนโลยีการสำรวจและทำแผนที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนา
ที่ดิน สำนักวิศวกรรมเพื่อการพัฒนาที่ดิน สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน

            ในปัจจุบัน (พ.ศ.2557) กรมพัฒนาที่ดินมรการแบ่งส่วนราชการตามกฎกรพทรวงฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555 และได้ตั้งกองเป็น
การภายในขึ้นอีก 2 กอง คือ กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน และ กองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน ดังนั้นจึงมีหน่วยงานรวม 5 กอง 1
ศูนย์ และ 18 สำนัก (6 สำนักในส่วนกลาง และ 12 สำนักในส่วนภูมิภาค) และมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
             1.ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาที่ดินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
             2.ศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ และจำแนกดิน เพื่อกำหนดนโยบาย และวางแผนการใช้ที่ดิน การกำหนดบริเวณการใช้ที่ดินการควบ
คุมการใช้ที่ดินบริเวณที่มีการใช้ หรือทำให้เกิดการเปื้อนของสารเคมี หรือวัตถุอื่นใด การกำหนดเขตการอนุรัษ์ดินและน้ำ รวมทั้งติดตาม
สถานการณ์สภาพการใช้ที่ดิน
             3.ศึกษา วิจัย และพัฒนาการปรับปรุงบำรุงดิน การอนุรักษ์ดินและน้ำ การพัฒนาโครงสร้าพื้นฐานเพื่อการเกษตรในไร่นา
ตลอดจนการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ และการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร
             4.ให้บริการวิเคราะห์และตรวจสอบดิน น้ำ พืช ปุ๋ย พร้อมให้คำแนะนำ เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน การอนุรักษ์ดินและน้ำ และอื่น
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ดิน
             5.ศึกษา วิเคราะห์ และผลิตแผนที่ภาพถ่าย จัดทำสำมะโนที่ดิน และพัฒนาระบบแผนที่ฐาน เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการ
ใช้ การพัฒนา การผลิต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร และอื่นๆ
             6.ถ่ายทอดผลการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และให้บริการด้านการพัฒนาที่ดิน รวมทั้งสร้างเครือข่ายหมอดินอาสาและกลุ่มเกษตรกร
ให้เข้มแข็ง เพื่อรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ดิน และในด้านอื่นๆ
             7.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

ปัจจุบัน สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 281/55 ถนนสายพิษณุโลก-วัดโบสถ์ ในเขตพื้นที่ของบ้านคลอง หมู่ที่ 5
ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก รหัสไปรษณีย์ 55000 ในพื้นที่ 3-2-50 ไร่ อยู่ห่างจากจังหวัดพิษณุโลกไปทางทิศเหนือประ
มาณ 2.5 กิโลเมตร มีพื้นที่ติดต่อกับพื้นที่ค้างเคียง คือ ทิศเหนือติดกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดพิษณุโลก ทิศใต้ติดกับ
อาคารบ้านเรือนเอกชน ทิศตะวันออกติดกับถนนสายพิษณุโลก-วัดโบสถ์ ทิศตะวันตกติดกับอาคารบ้านเรือนเอกชน สำนักงานตั้งอยู่ที่
พิกัดตำแหน่งระบบ UTM ที่ 634830 ตะวันออก และ 1863242 เหนือในแผนที่โซน 47Q พื้นที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ50ม

          มีสถานีพัฒนาที่ดินในสังกัด 5 สถานีฯ และแต่ละสถานีฯ มีที่ตั้งดังนี้
          สถานีพัฒนาที่ดินพิษณุโลก ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการและบ้านพักข้าราชการในปี 2527 บนพื้นที่สาธารณะ
ประโยชน์ "ป่าแดงซำเตย" ในความดูแลรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลชัยนาม เนื่อที่ 430-0-03 ไร่ ปัจจุบันอยู่เลขที่ 156 บ้าน
วังบอน หมู่ที่ 2 ตำบลชัยนาม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
          สถานีพัฒนาที่ดินเพชรบูรณ์ ได้พัฒนาปรับปรุงมาจาก "ศูนย์อนุรักษ์ดินและน้ำเพชรบูรณ์" ที่ก่อสร้างจากการบุกเบิกพื้นที่
สาธารณะประโยชน์ป่าเสื่อมโทรมในบริเวณบ้านโคกหนองหอย หมู่ที่ 11 ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อปี 2511 ต่อมา
ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์พัฒนาที่ดินเพชรบูรณ์ ในปี 2513 และเป็น สถานีพัฒนาที่ดินเพชรบูรณ์ในปี 2527 ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 45 บ้านโคกหนองหอย
หมู่ที่ 11 ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ 576 ไร่ ตั้งอยู่ระหว่างหลัก กม.ที่4-5 ของทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข 21 ช่วงเพชรบูรณ์-หล่มสัก
          สถานีพัฒนาที่ดินอุตรดิตถ์ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการและบ้านพักข้าราชการในปี 2529 ในพื้นที่ราชพัสดุของกรม
ธนารักษ์ในท้องที่บ้านนำริด หมู่ที่ 9 ตำบลน้ำริด อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อที่ประมาณ 138 ไร่ อยู่ติดถนนด้าตะวันออกของถนน
สายอุตรดิตถ์-เด่นชัย อยู่ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปทางทิศเหนือประมาณ 9 กิโลเมตร
          สถานีพัฒนาที่ดินเลย ได้พัฒนาปรับปรุงมาจาก "หน่วยอนุรักษ์ดินและน้ำเลย" ที่ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 สังกัดศูนย์พัฒนาที่ดิน
ขอนแก่น กองบริรักษ์ที่ดินในปี 2527 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สภานีพัฒนาที่ดินเลย สังกัดสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 ต่อมมาได้รับงบประ
มาณก่อสร้างอาคารที่ทำการและบ้านพักในพื้นที่สาธารณะประโยชน์บริเวณ กม.18 ริมถนนสายเลย-เชียงคาน บ้านโคกสว่าง หมู่ที่ 10
ตำบลศรีสองรัก อำเภอเมือง จังหวัดเลย เนื้อที่ 319-0-74 ไร่ ห่างจากจังหวัดเลยไปทางทิศเหนือประมาณ 18 กิโลเมตร สร้างเสร็จและ
เปิดใช้งานในปี 2532
          สถานีพัฒนาที่ดินพิจิตร ได้รับงบประมาณและเริ่มก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานี บ้านพัก โรงเรือนต่างๆในปีงบประมาณ 2536
บนที่ดินสาธารณะประโยชน์ "บึงโจงโคลง" ในเนื้อที่ 73-0-50 ไร่ โดยขอใช้จากสำนักงานจัดรูปที่ดินกลางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ด้วยความเห็นชอบจากสภาตำบลโรงช้าง ปัจจุบันมีที่ตั้งอยู่เลขที่ 19 บ้านโรงช้าง หมู่ที่ 2 ตำบลโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร

ภาพประกอบโครงสร้างหน่วยงานสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8
กรมพัฒนาที่ดิน มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ดีและมีประสิทธิภาพให้กับท่านมากยิ่งขึ้น โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตและยอมรับให้มีการใช้คุกกี้ตามนโยบายการใช้คุกกี้ของกรมพัฒนาที่ดิน