ผอ.สพด.สงขลา ร่วมพิธีเปิดงาน Kick Off ประกาศ “หมู่บ้านอนุรักษ์ดินและน้ำ” ปี 2568 @ตรัง : Hub ตัวแทนพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
11 ก.ย. 2568
3
วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. นายวีระพจน์ เรืองมี ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ร่วมพิธีเปิดงาน Kick Off ประกาศ “หมู่บ้านอนุรักษ์ดินและน้ำ” ณ โครงการเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำต้นแบบ ม.1 บ้านควนตัง ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ในฐานะ Hub ตัวแทนพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยมีนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน มีผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน และเจ้าหน้าที่ ในสังกัดสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรเข้าร่วม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ดำเนินการพร้อมกันใน 12 จังหวัดนำร่องทั่วประเทศ ผ่านระบบ Zoom Conference Meeting และ Facebook Live เพื่อให้เกษตรกรจากทุกภูมิภาคสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และแนวทางการจัดการดินและน้ำได้อย่างทั่วถึง
ด้านเวทีศูนย์หลักจังหวัดพะเยา นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Kick Off ประกาศ “หมู่บ้านอนุรักษ์ดินและน้ำ” ณ บ้านสันหมื่นแก้ว หมู่ 10 ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา มี นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอเมืองพะเยา เข้าร่วมงาน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน หมอดินอาสา และประชาชนในพื้นที่ ผู้เข้าร่วมงานทั้งในจังหวัดพะเยาและจังหวัดอื่น ๆ รวมกว่า 10,000 คน ผ่านระบบออนไลน์ และการถ่ายทอดสด
ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพื้นที่เกษตรกว่า 130 ล้านไร่ ซึ่งดินถือเป็นทรัพยากรหลักที่เกษตรกรพึ่งพา แต่ที่ผ่านมามีปัญหาดินเสื่อมโทรมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดินกรด ดินเปรี้ยว ดินเค็ม ดินตื้น ดินลูกรัง ดินทราย รวมถึงพื้นที่สูงที่ประสบปัญหาการชะล้างพังทลาย ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้พืชผลไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่และให้ผลผลิตน้อย กรมพัฒนาที่ดินจึงมุ่งเน้นการดำเนินงานอนุรักษ์ดินและน้ำ พร้อมวางแผนการใช้ที่ดินอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาอย่างยั่งยืน การประกาศ “หมู่บ้านอนุรักษ์ดินและน้ำ” จัดขึ้นเพื่อสร้างต้นแบบการจัดการดินและน้ำเชิงพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการกระตุ้นให้เกษตรกรเห็นคุณค่าของการพัฒนาที่ดิน การฟื้นฟูและบำรุงรักษาดินให้เหมาะสมตามศักยภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง