วันที่ 25 สิงหาคม 2568

สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา โดยนายวีระพจน์ เรืองมี ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา มอบหมายให้ นางสาวรัตนา แก้วประดับเพชร นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการเข้าร่วม ประชุมหารือแนวทางการจัดการโรคเหี่ยวกล้วย โดยมีนายประถม มุสิกรักษ์ เกษตรจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการจัดการโรคเหี่ยวกล้วยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุม 1 สำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 48 ราย

จากปัญหาการระบาดของโรคเหี่ยวกล้วย จากเชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacerum ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร จำนวน 253 ไร่ เกษตรกร จำนวน 55 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่หลายอำเภอ ได้สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มเกษตรกร ได้แก่ เกษตรกรแปลงใหญ่กล้วย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วย และเกษตรกรอื่นๆ ส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย รายได้ลดลง เกษตรกรขาดความรู้ในการจัดการพื้นที่หลังเกิดการระบาดของโรคเหี่ยวกล้วย และการปลูกพืชอื่นทดแทนในพื้นที่เดิม

สาระสำคัญของการหารือแนวทางการจัดการโรคเหี่ยวกล้วยจากแบคทีเรีย มีดังนี้

1. ปัญหาโรคเหี่ยวกล้วย ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากแบคทีเรียในกลุ่ม R. solanacearum species complex สายพันธุ์ที่่เข้าทำลาย คือ R. syzygii subsp. celebesensis อาการของโรคเหี่ยวกล้วย แสดงอาการเหี่ยวที่่ใบธง (ใบอ่อน) ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ต่อมาใบอื่นๆ แสดงอาการเหี่ยวเป็นสีเหลือง เมื่อตัดดูลักษณะภายในลำต้นเทียมจะเห็นท่อน้ำและท่ออาหารเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ปลีกล้วยแคระแกร็น และหากติดผลเนื้อภายในจะเป็นสีดำ ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้เลย ถ้าอาการรุนแรงมาก ต้นกล้วยจะยืนต้นตาย

2. การแพร่ระบาดของโรคเหี่ยวกล้วย โรคสามารถอยู่ในดินที่่มีเศษซากพืชและผลที่่เป็นโรคได้อย่างน้อย 1 ปี จึงสามารถเข้าสู่ต้นกล้วย ผ่านทางรากได้เมื่อมีการปลูกกล้วยใหม่โดยไม่มีการจัดการก่อน นอกจากนี้เชื้อสาเหตุโรคยังแพร่กระจาย ได้ในระยะไกล จากการเคลื่อนย้ายหน่อกล้วย ดิน น้ำ อุปกรณ์การเกษตร ยานพาหนะ และผลกล้วยที่มีเชื้อแต่ภายนอกยังไม่แสดงอาการของโรค และยังสามารถถ่ายทอดโรคผ่านทางแมลงผสมเกสร

3. การนำเสนอองค์ความรู้ เทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวกล้วยจากแบคทีเรีย จากงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เกษตรกรต้องดำเนินการป้องกัน ควบคุม กำจัดโรคด้วยวิธีผสมผสาน โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของเกษตรกร เนื่องจากมีต้นทุน แรงงาน และวิธีการปฏิบัติของเกษตรกร ที่ต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

4. การนำเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนพืชชนิดอื่นทดแทน โดยสถานีพัฒนาที่ดิน เช่น การปรับเปลี่ยนพื้นที่ เป็นแปลงปลูกพืชปาล์มน้ำมัน

5. การจัดทำแปลงทดสอบโดยนำเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวกล้วยของกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรมาปรับใช้ในพื้นที่ และการประเมิน การยอมรับเทคโนโลยีการจัดการเหี่ยวกล้วยด้วยวิธีผสมผสาน

6. การบูรณาการหน่วยงานภาคี เพื่อรวมกันดำเนินการ ขับเคลื่อนการจัดการโรคเหี่ยวกล้วยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 กรมวิชาการเกษตร สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา